การศึกษาโลก
การศึกษาในประชาคมอาเซียน
1.ชื่อเรื่อง
คุยกับดำรง
มาตรฐานการศึกษาไทย
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ประเทศสิงคโปร์ทุ่มงบประมาณการศึกเป็นอันดับ1ของอาเซียน โดยไทยเราให้งบการศึกษาเป็นอันดับที่9ของอาเซียนโดย1-8ประเทศไทยให้ใช้ในการพัฒนาอย่างอื่น
การให้ความสำคัญกับการศึกษาก็สื่อออกมาถึงผลการจัดอันดับการศึกษาในอาเซียน ซึ่งผลการจัดอันดับโดย
"World Economic Forum 2013-2014" ได้จัดอันดับการศึกษา
ส่งผลให้ประเทศไทยได้อันดับที่8 ซึ่งเป็นอันดับเกือบสุดท้ายของอาเซียน โดยประเทศสิงคโปร์เป็นอันดับที่
1 ของอาเซียน
ข้อคิดที่ได้
ประเทศไทยควรจัดการศึกษาให้มีระบบมากกว่านี้
ควรเพิ่มงบประมาณการศึกษามากกว่าการใช้ประโยชน์ในด้านอื่น
2.ชื่อเรื่อง
การขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ประชาคมอาเซียน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
คนไทยต้องมีความทะเยอทะยานในการที่จะให้ลูกหลานบรรลุจุดสูงสุดตามศักยภาพที่เขามี
ทำอย่างไรให้พ่อแม่และผู้จัดการศึกษาตระหนักว่าถ้าทำได้คือความสำเร็จของสังคม
(เป็นปรัชญาการศึกษา) เอาศักยภาพข้างในออกมา... ไม่ยอมจำกัดจุดสุดยอดของลูก
อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ หรือคนที่เป็นได้เพราะมีข้อยกเว้น การเตรียมตัวเข้าสู้อาเซียนของคนไทยนั้น
จะต้องเปลี่ยนแนวคิดในด้านต่างๆให้มีเหตุผลมากขึ้น
พัฒนาด้านภาษาต่างประเทศอย่างจริงจัง สร้างความเป็นเลิศทางงวิชาการ
ลดการนิยมทางวัตถุให้น้อยลง และที่สำคัญคือ อย่าจำกัดจุดยืนสูงสุดของตัวเอง
ข้อคิดที่ได้
การศึกษาเท่านั้นที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในทางที่สร้างสรรค์ของสังคม
การศึกษาจะยับยั้งการทำลาย ยับยั้งวิกฤตของโลก
3.ชื่อเรื่อง
การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน
ตอน 1
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
1. ต้องอยู่กันให้สันติ
ต้องทำให้ในภูมิภาคนี้เป็นที่มั่นใจและไว้ใจของคนทั่วโลก ว่าเค้าต้องการมาเที่ยวต้องการมาลงทุน
2.ต้องการให้ทั้ง10ประเทศมีรายได้ประชาชาติรวมกันทั้งหมดมากกว่าอินเดียหนึ่งประเทศ
เกือบเท่ากับเกาหลี
3.เสมอภาค
โดยไม่จนเกินไปหรือไม่รวยจนล้นฟ้า จนกระทั่งมีช่องว่างมากเกินไป
ข้อคิดที่ได้
การคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหา
ไม่เน้นการท่องจำ ทำให้เราตัดสินใจในสิ่งต่างๆได้ด้วยตนเอง
และสิ่งนี้ยังเป็นส่วนที่สำคัญในการแข่งขันในอาเซียนด้วย
4.ชื่อเรื่อง
การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน
ตอน 2
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ประเทศไทยจะต้องให้ความทุ่มเท
ต้องใช้สมรรถภาพของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ คือ
ความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ เพราะปัญหาต่างๆภายในของประเทศไทยที่เปลี่ยนนโยบาย
ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวเพื่อได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
ข้อคิดที่ได้
อาเซียนจะต้องมีความมั่นคงในเรื่องศาสนา
การศึกษา กีฬา สาธารณสุข ศิลปะและวัฒนธรรม
5.ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศสิงคโปร์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
สิงคโปร์ประกาศว่าจะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษามาตรฐานโลก
โดยจะให้โอกาสเท่าเทียมกันในด้านการศึกษาเป็นพื้นฐาน โดยจะดึงดูดคนต่างประเทศเข้ามาเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
โดยรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา
1. มุ่งเน้นผลลัพธ์ทางการศึกษา
2. เน้นจิตสำนึก
แรงจูงใจ การใฝ่รู้ ด้วยตัวของผู้เรียนเอง
3. ทุ่มทรัพยากรด้านเงินทุนทางการศึกษา
4. การบริหารจัดการแบบศูนย์รวม
5. หลักสูตรการเรียนการสอนที่เข้มข้น
6. ประเมินตัวเองของผู้เรียนให้มากขึ้น
7. แรงสนับสนุนจากครอบครัวผู้เรียน
ข้อคิดที่ได้
สิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาของคนในชาติเป็นอย่างมาก
ซึ่งระบบการศึกษาของสิงคโปร์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก
เมื่อเรียนจบแล้วสามารถมีงานทำตรงต่อสาขาที่ตัวเองเรียนมา ซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบหลักสูตรที่ตอบสนองกับคนเรียน
และรู้ว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจในทิศทางไหน อย่างไร
6.ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศเวียดนาม
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ประเทศเวียดนามเป็น 1 ในประเทศอาเซียน
การศึกษาในประเทศเวียดนามนั้นโรงเรียนส่วนใหญ่เน้นวิชา ภาษาต่างประเทศมากขึ้นไม่ใช่เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น
แต่มีภาษาฝรั่งเศสและภาษาอื่นๆ ด้วย ถึงแม้จะเรียน 7.30 น. - 17.00 น.
แต่ว่าเด็กหลายคนก็ตั้งในเรียนให้ดีที่สุดเพื่อเตรียมเป็นพลเมืองอาเซียนที่มีคุณภาพ
ทุกภาคการศึกษาครูจะต้องประเมินความรู้เด็ก
ไม่ใช่จัดลำดับการศึกษาในระดับประเทศเท่านั้น แต่ต้องนำไปจัดลำดับกับต่างประเทศด้วย
ขณะที่ครูก็จะหมุนเวียนไปอบรมกับหลักสูตรนานาชาติ และทางโรงเรียนก็จะมีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนในระดับภูมิภาคอีกด้วย
ข้อคิดที่ได้
ต้องผลิตคนแบบไหนให้เหมาะกับแรงงานอาเซียน
สิ่งที่เรียนมาต้องสอดคล้องกับงานที่จะทำ
7. ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศลาว
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ประเทศลาวมีปัจจัยพื้นฐานแห่งการเปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรมและทันสมัย
เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น
แต่ต้องยึดการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
เร่งดำเนินการปฏิรูประบบการศึกษาแห่งชาติให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐานสูงขึ้น
โดยมุ่งเน้น “ สร้างคนลาวให้เป็นพลเมืองดี มีการศึกษา
ข้อคิดที่ได้
ประเทศควรมีนโยบายส่งเสริมการศึกษาไทย
โดยเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยรักการเรียนรู้
8.ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศมาเลเซีย
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
มาเลเซียประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษา
1961 เป็นปีที่เริ่มมีการใช้ภาษามาลายูเป็นภาษาหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
เริ่มการสอบใช้ ภาษามาลายู และอังกฤษ
เริ่มมีการส่งเสริมการศึกษาสายเทคนิคศึกษาและอาชีวศึกษาสร้างความพร้อมด้านแรงงานฝีมือตามความจำเป็นที่เกิดจากการพัฒนาประเทศ
รัฐบาลของประเทศมาเลเซียต้องการพัฒนามาเลเซียให้เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศทางด้านการศึกษาในภูมิภาคนี้โดยมีการวางแผนพัฒนายุทธศาสตร์ด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ผลของการพัฒนาเห็นได้ชัดจากการที่มีนักเรียนต่างชาติเดินทางเข้ามาศึกษาที่ประเทศมาเลเซียสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อคิดที่ได้
การศึกษาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาประเทศ
มาเลเซียมีการให้ความสำคัญด้านการศึกษาในการพัฒนาประเทศ
9.ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศอินโดนีเซีย
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ปัจจุบันคนอินโดนีเซียรั้งท้ายชาติอื่นเพราะมีทัศนคติในแง่ลบต่ออุปสรรคอื่นๆที่ฝังรากลึกอย่างยาวนาน
เช่นโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างเชื่องช้าและระบบการศึกษาที่ไม่ได้ผลแม้ว่ารัฐธรรมนูญอินโดนีเซียจะบัญญัติว่าพลเมืองทุกคนต้องได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม
และด้วยอาจเป็นเหตุผลด้านการเป็นชาติระดับแนวหน้าของโลกมุสลิม ทำให้ค่อนข้าง
ไม่ให้ความสำคัญกับตะวันตกมากนัก โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนด้านภาษาต่างประเทศ
ในทางกลับกันอินโดนีเซียมักให้น้ำหนักไปที่การศึกษาในเชิงศาสนาอิสลาม
เพื่อสร้างบุคลากรในการเป็นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ข้อคิดที่ได้
การศึกษาควรเน้นให้มีบทเรียนในการสร้างความเป็นตัวตนในสังคม
ให้มีสัดส่วนมากกว่า80
เปอร์เซ็นต์ต่อวิชาเรียน
10.ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ระบบการศึกษาของประเทศฟิลิปปินส์เป็นการศึกษาที่รับมรดกมาจากสเปนและสหรัฐอเมริกาที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคม
จึงทำให้ระบบการศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์ใกล้เคียงกับระบบการศึกษาแบบเป็นทางการของสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่ระบบการศึกษาของประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียมักจะได้รับอิทธิพลจากประเทศอังกฤษ
ฝรั่งเศส หรือเนเธอร์แลนด์การศึกษาแบบ ข้อคิดที่ได้
ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารที่สุดในอาเซียน
11.ชื่อเรื่อง
การศึกษาในประเทศบรูไน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้
ประเทศบรูไนไม่มีการศึกษาภาคบังคับ
แต่รัฐให้การศึกษาแก่ประชาชนเพื่อมุ่งพัฒนาให้มีความสามารถด้านสติปัญญาและมีความสุข
และให้เรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย การศึกษาแบ่งออกเป็นระดับก่อนประถมศึกษา 1 ปี
ระดับประถมศึกษา 6 ปี ระดับมัธยมศึกษา 7-8 ปี ซึ่งแบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3
ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2-3 ปี
และระดับเตรียมอุดมศึกษา 2 ปี และระดับมหาวิทยาลัย 3-4 ปี
บรูไนใช้ทั้งภาษามลายูและภาษาอังกฤษสอนเด็กตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ภาษามลายูสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม พลศึกษา ศิลปะ ส่วนภาษาอังกฤษใช้สอนวิชาหลัก
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นต้น
ข้อคิดที่ได้
ความได้เปรียบของประเทศบรูไนนั้นขึ้นชื่อเรื่องอุตสาหกรรมการส่งออกน้ำมันเป็นอันดับต้นๆของอาเซียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น